กินอะไร? ให้เหมาะสมตามธาตุที่เกิด

ธาตุดิน (ผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ราศีกันย์ และราศีมังกร) ผู้ที่เกิดธาตุดินเป็นคนมีจิตใจเข้มแข็ง มีความมุ่งมั่น เชื่อมั่นในตัวเองสูง ละเอียดรอบคอบ อ่อนน้อมถ่อมตน รักความยุติธรรม เก็บอารมณ์เก่งจนบางทีไม่สามารถแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง จนบางครั้งคนรอบข้างรู้สึกว่าเข้าถึงได้ยาก ปัญหาสุขภาพของคนธาตุดินคือ โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง อาการปวดข้อ โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ จึงควรกินอาหารรสฝาด รสหวาน และรสมัน เช่น กระถิน ใบบัวบก หัวปลี มะละกอ ถัวพู ผักกระเฉด กล้วย เผือก มัน เป็นต้น

ธาตุน้ำ (ผู้ที่เกิดราศีกรกฎ ราศีพิจิก และราศีมีน) ชาวธาตุน้ำเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหว เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไหวพริบดี ขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือผู้อื่น รักเพื่อนพ้องและครอบครัว ไม่ชอบความรุนแรง แต่มักพอใจกับการอยู่ในโลกส่วนตัวมากกว่าโลกความจริง ชอบเก็บเรื่องราวต่างๆ มาคิดมาก ปัญหาสุขภาพที่ชาวธาตุน้ำมักประสบได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน เสมหะเป็นพิษ ควรกินอาหารรสเปรี้ยว หลีกเลี่ยงอาหารรสมัน เช่น ส้มโอ ส้มเขียวหวาน สับปะรด มะนาว มะเขือเทศ มะเฟือง ยอดมะขามอ่อน ยอดมะกอก เป็นต้น

ธาตุลม (ผู้ที่เกิดราศีเมถุน ราศีตุล และราศีกุมภ์) ผู้ที่เกิดธาตุลมมักใช้เหตุผลตัดสินปัญหามากกว่าใช้อารมณ์ คิดและวางแผนเก่งเป็นที่ปรึกษาแก่คนอื่นๆ ได้อย่างดี มีวาทศิลป์ในการเจรจาสื่อสาร อารมณ์ดี สนุกสนานร่าเริง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค แต่บางครั้งตั้งเป้าหมายในชีวิตสูงเกินไปจนเกิดความผิดหวัง ปัญหาสุขภาพของคนธาตุลมคือ โรคข้อ-กระดูก โรคกระเพาะอาหารและระบบย่อยอาหาร ปวดท้องจุกเสียด นอนไม่หลับ จึงควรกินอาหารรสเผ็ดร้อน เลี่ยงรสหวานจัด อาทิ ขิง กระชาย กะเพรา พริกไทย กระเทียม ยี่หร่า ใบชะพลู ใบแมงลัก ชมพู่ แตงโม เป็นต้น

ธาตุไฟ (ผู้ที่เกิดในราศีเมษ ราศีสิงห์ และราศีธนู) ชาวธาตุไฟมีความเชื่อมั่นในตัวเอง มีความมั่นคงทางอารมณ์ มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม ชอบเผชิญสิ่งแปลกใหม่และการเปลี่ยนแปลง ชอบเข้าสังคม มีความเป็นผู้นำ แต่บางครั้งชอบควบคุมให้คนอื่นคิดอย่างที่ตนต้องการ มักนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นจนบางทีเกิดความท้อแท้ ปัญหาสุขภาพที่ชาวธาตุไฟควรระวังได้แก่ โรคเครียด ร้อนใน โรคกระเพาะอาหาร ท้องเสีย แผลในปาก ควรกินอาหารรสขม รสเย็น รสจืด เลี่ยงอาหารรสเผ็ดร้อน เช่น สะเดา มะระ ฟักเขียว บวบ คะน้า ใบยอ ชะอม ดอกขจร มะละกอ แตงไทย เป็นต้น